เหรียญคริปโตมีอะไรบ้าง และหากจะนับกันจริง ๆ แล้วน่าจะมีมากกว่า 10,000 เหรียญ ที่จะจำแนกออกเป็นกลุ่มได้ดังนี้
1. กลุ่ม currency เป็นเหรียญที่ใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนบริการและสินค้าแทนการใช้เงินแบบปกติ เก็บรักษามูลค่าได้และมีจำนวนจำกัด และไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ ยิ่งคนต้องการมากเท่าไหร่แล้วค่าห้องอื่นก็จะเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเหรียญ Bitcoin (BTC), Litecion (LTC), Bitcion Cash (BCH)
2. กลุ่มสัญญาอัจฉริยะ ( Smart Contract ) คือเหรียญที่เป็นเครือข่ายของบล็อกเชนที่รองรับการใช้สัญญาอัจฉริยะ Smart contract สามารถพัฒนาต่อยอดได้หลายอย่าง เช่น สร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์โดยไม่มีตัวกลาง บริการการเงินบนบล็อกเชนไม่ต้องพึ่งพาธนาคาร ผลงานในรูปแบบของ NFT กำลังเป็นที่ได้รับความนิยม ตัวอย่างเหรียญ Ethereum(ETH), Cardano(ADA), Polkadot (DOT)
3. กลุ่ม Stablecion คือเหรียญที่อ้างอิงกับเหรียญหรือสินทรัพย์บางอย่างไว้ เช่น อ้างอิงกับเงินดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงกับราคาน้ำมัน อ้างอิงกับราคาทอง เพื่อดึงข้อมูลของเหรียญไม่ให้ผันผวนสูงเหมือนกับเหรียญคริปโตทั่วไป ตัวอย่างเหรียญ Teter (USDT),
USD Coin (USDC), Dai (DAI)
4. เหรียญกลุ่มมีม (Meme) เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นมาเล่น ๆ แต่ได้รับความนิยมสูงช่วงเวลาหนึ่ง นำมาเก็งกำไรในระยะสั้น ๆ ตัวอย่างเหรียญ Dogecoin(DOGE), Shiba Inu (SHIB), Husky Coin(HUSKY)
5. Bitcoin คืออะไร Bitcoin เป็นคลิปโท Currency ตัวแรกของโลกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 2552 เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการที่ไม่ขึ้นกับเงินสกุลใด ๆ โดยที่ไม่ผ่านธนาคารกลาง และกำหนดปริมาณเงินระบบไว้ที่ 21 ล้านหน่วย อัตราแลกเปลี่ยนในช่วงแรก 1 BTC เท่ากับ 0.000764 USD ภายหลัง Bitcoin ได้รับความนิยมสูงสุด มีกางเก็งกำไรขึ้นจนราคา Bitcoin พุ่งไปถึง 2 ล้านบาทต่อ 1 BTC เลยเดียว
Fiat คือเงินตรา หรือเงินกระดาษ โดยที่ประเทศนั้น ๆ ได้กำหนดให้ใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น เงินหยวน เงินดอลลาร์สหรัฐ เงินบาท มีเพียงประเทศเอลซัลวาดอร์ประเทศเดียวที่ยอมรับให้คริปโตใช้หนี้ได้ตามกฎหมาย ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังไม่ให้การยอมรับ และมีบางประเทศแบนคลิปโตแล้ว เช่น จีน ได้ประกาศให้เงินคริปโตเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ห้ามทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตโดยเด็ดขาด